วิธีรักษาฝ้า ให้จางลง เรียกคืนความมั่นใจกลับคืนมา
ปัญหาผิวเกี่ยวกับ “ฝ้า” ปัญหาผิวหน้าที่พบบ่อยมากในคนไทย เนื่องจากสาเหตุสำคัญ ที่ทำให้เกิดฝ้าคือ แสงแดด อย่างบ้านเราที่เป็นเมืองร้อนมีแสงแดดตลอดปี โอกาสเลี่ยงแสงแดดจึงเป็นไปได้ยาก โดยเฉพาะคนที่ต้องออกไปเผชิญกับแสงแดดเป็นประจำ นับว่ามีโอกาสที่จะเป็นฝ้าได้มากขึ้น จึงนับเป็นอีกหนึ่งเรื่องที่น่าหนักใจและสร้างความกังวลให้กับใครหลาย ๆ คน เพราะเมื่อใบหน้าของเราเกิด “ฝ้า” ก็มักจะมาพร้อมกับรอยปื้นดำคล้ำเป็นแถบ ๆ บางคนมีฝ้ากระจายทั่วไปหน้า หรือมีฝ้าที่สะสมมานานจนสามารถสังเกตเห็นได้อย่างชัดเจน จนทำให้สูญเสียความมั่นใจเมื่อต้องแต่งตัวออกไปข้างนอก นอกจากนี้ฝ้าที่สะสมมาอย่างยาวนานยังอาจรักษาให้หายขาดได้ค่อนข้างยาก ต้องใช้เวลาในการรักษา แต่ใช่ว่าฝ้าเมื่อเป็นแล้วจะรักษาไม่หายหรือไม่จางลง เพราะปัจจุบันมี วิธีรักษาฝ้า มากมาย ไม่ว่าจะเป็นการ รักษาฝ้าด้วยตัวเอง หรือ เข้ารับการรักษาทำหัตถการโดยแพทย์ผู้ชำนาญการด้านการรักษาฝ้า แล้วถ้าหากอยากจะเริ่มต้นรักษาฝ้าให้ถูกวิธี ฝ้าแลดูจางลงอย่างเห็นได้ชัด และไม่กลับมาเป็นฝ้าซ้ำอีก จะมี วิธีรักษาฝ้า แบบไหนบ้าง ตามไปดูกัน
แนะนำแนวทางในการ รักษาฝ้าด้วยตัวเอง สำหรับผู้ที่เป็นฝ้าในระดับที่ยังไม่รุนแรงมากนัก หรือเพิ่งเริ่มเป็นฝ้า
วิธีรักษาฝ้า แบบเริ่มต้นสำหรับมือใหม่หรือผู้ที่เพิ่งเริ่มมีปัญหาฝ้าในระดับที่ยังไม่รุนแรง ฝ้ายังไม่เข้มหรือชัดเจนหรือฝังลึกมากนัก ก็อาจจะลองดูแลและบำรุงผิวหน้าของตนเองด้วยวิธีการง่าย ๆ ที่สามารถทำเองได้ดังต่อไปนี้
- การทาครีมบำรุงที่มีส่วนช่วยในการรักษาฝ้า เป็นหนึ่งในการ รักษาฝ้าด้วยตัวเอง ที่ทำได้ง่าย โดยครีมจะต้องมีส่วนผสมของ วิตามินซี กรดโคจิก สาร AHA เป็นต้น เพื่อจะช่วยยังยั้งการทำงานของเม็ดสีและการทำลายของแสงแดด ช่วยให้ฝ้าที่เป็นอยู่แลดูจางลง ซึ่งการทาครีมบำรุงเป็นวิธีที่ต้องใช้ความสม่ำเสมอและอาจต้องใช้ระยะเวลานานพอสมควรจึงจะเห็นผล
- รักษาฝ้าแบบธรรมชาติ ด้วยการดูแลสุขภาพผิวจากภายใน เลือกรับประทานอาหารอย่างเช่น ผักและผลไม้ที่มีวิตามิน A, C, E ต้านอนุมูลอิสระ เช่น ลูกพรุน องุ่น ผลไม้ชนิดเบอร์รี่ ฝรั่ง ส้ม ส่วนผัก ได้แก่ ผักบุ้ง บรอกโคลี ผักขม จะช่วยทำให้ผิวแข็งแรงขึ้น ป้องกันไม่ให้ฝ้าที่เป็นอยู่ลุกลาม
- รักษาฝ้าแบบธรรมชาติ นอกจากการทานอาหาร หรือการใช้ครีมบำรุงแล้ว สาว ๆ อาจอยากทดลองบำรุงรักษาฝ้าด้วยวิธีธรรมชาติ ด้วยการใช้มะขามเปียกมาทาหรือพอกบาง ๆ บริเวณที่เป็นฝ้า พอกทิ้งไว้เพียง 3-5 นาที แล้วล้างออก จะช่วยลดรอยด่างดำ ช่วยผลัดเซลล์ผิว และยังทำให้หน้าดูขาวกระจ่างใสขึ้นอย่างเป็นธรรมชาติ ซึ่งมีฤทธิ์คล้ายการใช้สารสกัด AHA แต่อาจจะไม่สะดวก
- รักษาฝ้าแบบธรรมชาติ ด้วนการใช้สูตรพอกหน้าด้วยสมุนไพรต่าง ๆ ที่มีคุณสมบัติในการผลัดเซลล์ผิว ยับยั้งการผลิตเม็ดสีผิว เป็นต้น เช่น ใบบัวบก, ว่านหางจระเข้, หัวไชเท้า, มะละกอสุก, แอปเปิ้ลไซเดอร์, มะนาว, มะขามเปียก แต่มีข้อควรระวังคือการผสมจะต้องใช้ปริมาณที่เหมาะสมและได้สัดส่วน ความสะอาดของวัตถุดิบที่นำมาใช้พอกผิวหน้า และบางสูตรอาจไม่เหมาะกับผู้ที่มีผิวบอบบาง แพ้ง่าย และอาจไม่ได้ผลลัพธ์กับฝ้าที่สะสมมานานหรือฝ้าที่อยู่ลึกลงไปในชั้นผิวหนังนั่นเอง
6 วิธีรักษาฝ้า ยอดนิยมที่ช่วยให้ฝ้าแลดูจางลงอย่างชัดเจนและเห็นผล แม้เป็นฝ้าสะสมมานาน
สำหรับทางเลือกยอดนิยมที่เหมาะสำหรับผู้เป็นฝ้าทุกชนิดและทุกระดับ ไม่ว่าจะเป็นฝ้าตื้น ฝ้าลึก ฝ้าผสม หรือฝ้าจากสาเหตุต่าง ๆ ทั้งจากแสงแดด กรรมพันธุ์ ความเครียด ฮอร์โมน หรือการติดสารสเตียรอยด์ เป็นต้น คือการเข้ารับคำปรึกษาและรับ วิธีรักษาฝ้า จากแพทย์เฉพาะทางด้านผิวหนังที่มีความชำนาญในการรักษาฝ้าโดยเฉพาะ ร่วมกับการใช้เทคโนโลยีและนวัตกรรมต่าง ๆ ที่ทันสมัย เพื่อช่วยเพิ่มโอกาสในการรักษาฝ้าให้หายขาด และไม่ก่อให้เกิดผลกระทบอื่น ๆ ต่อผิวตามมา โดยมีเทคโนโลยีที่ถูกนำมาใช้เป็น วิธีรักษาฝ้า ที่ได้รับการยอมรับและเหมาะสมกับสภาพผิวของสาวไทย ดังต่อไปนี้
- วิธีรักษาฝ้า ด้วย “IPL” (Intense Pulsed Light) เป็นการใช้พลังงานแสงความเข้มสูง ช่วยกระตุ้นการสร้างคอลลาเจน และอีลาสตินในผิวชั้นบน ๆ ช่วยในเรื่องของการรักษาฝ้ากระ และจุดด่างดำได้ ทำให้ผิวดูกระจ่างใสขึ้น แต่ต้องทำหลายครั้งถึงจะเห็นผล ช่วยให้ฝ้าจางลงได้ แต่ไม่ได้ช่วยให้ฝ้าหายขาด มีโอกาสที่ฝ้าจะกลับมามีสีเข้มได้อีกเช่นกัน
- วิธีรักษาฝ้า ด้วย “เลเซอร์” คือการใช้เครื่องมือในการปล่อยพลังงานแสงความเข้มข้นสูง ยิงไปที่ผิวหนังบริเวณเป้าหมาย เพื่อทำลายเม็ดสีที่มีความผิดปกติ รวมถึงช่วยกระตุ้นให้คอลลาเจนผลิตเซลล์ใหม่ ๆ ออกมาได้ไวขึ้น แต่อาจทำให้ผิวหน้าหลังการรักษาไวต่อแสง แต่อย่างไรก็ตาม เลเซอร์เป็นเทคนิคที่ใช้ความร้อนค่อนข้างสูง และเกิดการแสบร้อนที่ผิวชั้นบนได้มาก ในคนไทยส่วนใหญ่ที่ทำเลเซอร์จึงมักพบผลลัพธ์ที่ไม่พึงพอใจในเรื่องของรอยด่างดำหลังทำ โดยเฉพาะเมื่อออกแดดจัดก็จะทำให้ฝ้าเข้มขึ้นกว่าเดิม และฝ้าสามารถกลับมาเป็นซ้ำได้อีก
- วิธีรักษาฝ้า ด้วย “เมโส” (Meso Melasma) คือการฉีดสารอาหารที่จำเป็นรวมถึงแร่ธาตุต่าง ๆ และกรดอะมิโน เข้าสู่ผิวชั้นกลางโดยตรง ตัวยาจะเข้าไปในชั้นผิว สู่จุดด่างดำทันที ช่วยควบคุมให้เซลล์สีหรือเม็ดสีทำงานลดลง สามารถช่วยชะลอการกระจายของฝ้าได้แต่ไม่มากนัก ซึ่งขึ้นอยู่กับชนิดของฝ้าและความเข้มของฝ้าบนใบหน้า จึงไม่เหมาะกับคนที่มีฝ้าหนาเป็นปื้น ๆ วิธีนี้ผิวหน้าจะได้รับผลข้างเคียงน้อยกว่าการทำเลเซอร์ ซึ่งผลลัพธ์สามารถอยู่ได้นานหลายเดือนขึ้นอยู่กับการดูแลผิวหน้าจึงจำเป็นต้องกลับมาทำซ้ำอย่างต่อเนื่อง
- วิธีรักษาฝ้า ด้วย “ไอออนโต” เป็นการใช้กระแสไฟฟ้ารักษาฝ้า ด้วยการใช้เครื่องมือรักษาฝ้าทางการแพทย์ที่อาศัยหลักการให้กำเนิดกระแสไฟฟ้าที่อยู่ในระดับอ่อน ๆ การทำงานของไอออนโตจะมีหน้าที่ช่วยผลักยาหรือวิตามินที่แพทย์ทาไว้บนผิวให้ซึมเข้าสู่ผิวได้ดียิ่งขึ้น ข้อดีของการรักษาด้วยไอออนโตคือจะมีผลข้างเคียงน้อย แต่บางรายอาจมีอาการระคายเคืองได้
- วิธีรักษาฝ้า ด้วย “การกรอผิวด้วยเทคนิค MD” (Microdermabrasion) เป็นการพ่นผงคริสตัล (Crystal) หรือเกร็ดอัญมณี ที่มีขนาดเล็กลงบนผิวหน้า เพื่อช่วยผลัดเซลล์ผิวชั้นนอก กำจัดสิ่งสกปรกให้หลุดออก และกระตุ้นการสร้างผิวใหม่ขึ้นมาแทนที่ แต่อย่างไรก็ตาม เทคนิคกรอผิวแบบ Microdermabrasion ที่ต้องระวังเป็นอย่างยิ่งคือมักจะทำให้ผิวเกิดการระคายเคือง เนื่องจากตัวเม็ดอัญมณีที่ใช้มักจะทำให้ผิวหนังทั้งชั้นหนังแท้และหนังกำพร้าได้รับความกระทบกระเทือนหรือเกิดการ invasive ทำลายหน้าผิวชั้นบน บางรายจะเกิดอาการแสบร้อน รอยแดง และกลายเป็นแผลเป็นถาวรได้
- วิธีรักษาฝ้า ด้วยเทคนิค SMAPS เป็นอีกนวัตกรรมใหม่ที่ได้รับการยอมรับในเรื่องของการรักษาฝ้าอย่างเห็นผลลัพธ์ชัดเจนตั้งแต่ครั้งแรก ๆ ที่ทำ อย่างเช่น โปรแกรม SMAPS เทคนิคการรักษาฝ้าขั้นสูง สิทธิบัตรเฉพาะของ Chuladoctor Clinic ที่ออกแบบมาให้ตอบโจทย์การรักษาฝ้าแบบเน้นเห็นผลลัพธ์อย่างชัดเจน ส่งผลดีต่อสุขภาพผิวในระยะยาว เป็นนวัตกรรม “เซลล์ซ่อมเซลล์” แบบ Ultra Premium Quality ที่ช่วยในการขจัดฝ้าได้อย่างมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น ช่วยลดการอักเสบ สามารถบูสต์ผิวบำรุงลึกถึงข้างใน สร้างผิวใหม่ที่เเข็งเเรงกว่าเดิม สร้างเกราะป้องกันผิว กระตุ้นการสร้างคอลลาเจน ปรับสมดุลผิวให้เเข็งเเรงขึ้นมากกว่าเดิม ผลลัพธ์คือช่วยลดเลือนความเข้มของสีฝ้า รอยแผลเป็น ระดับลึกแต่อ่อนโยนไม่ทำให้ผิวบาง ไม่ระคายเคือง ช่วยให้ผิวแข็งแรงจากภายใน เรียบเนียน สุขภาพดี ฝ้าไม่กลับมาซ้ำอีก
สรุป
ถึงแม้ว่าจะมี วิธีรักษาฝ้า ให้เลือกมากมาย แต่ทั้งนี้ก็ต้องขึ้นอยู่กับประเภทของฝ้า สาเหตุของการเกิดฝ้า และสภาพผิวของแต่ละบุคคลที่แตกต่างกันไป ย่อมต้องใช้ วิธีรักษาฝ้า ที่แตกต่างกันทั้งในเรื่องของวิธีการ เครื่องมือ ความถี่ในการรักษา และการดูแลผิวหน้าหลังรับการรักษา ดังนั้นในบางครั้งการ รักษาฝ้าด้วยตัวเอง ก็อาจจะไม่ค่อยเห็นผลลัพธ์ที่ชัดเจนมากนัก รวมถึงต้องใช้ระยะเวลานาน และอาจจะเป็นเรื่องยากสำหรับใครหลาย ๆ คน แนะนำว่าหากเป็นฝ้ามานานใช้กี่วิธีก็ยังไม่จางลงหรือไม่หายขาด ยังมีฝ้าเกิดขึ้นเรื่อย ๆ หรือเข้มขึ้นเรื่อย ๆ ควรเข้ารับคำแนะนำจากแพทย์เฉพาะทางด้านผิวหนัง เพื่อวิเคราะห์และวินิจฉัยถึงสาเหตุที่แท้จริงและรับการรักษาฝ้าอย่างเหมาะสม เพื่อผลลัพธ์ที่น่าพึงพอใจ ช่วยคืนความสดใสและเรียกความมั่นใจกลับคืนมาสู่ใบหน้าของคุณอีกครั้ง
บทความนี้เขียนโดย แพทย์หญิงธนิดา วรวิวัชร์ (หมอใบเฟิน) แพทย์ศาสตร์บัณฑิต จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ผู้ก่อตั้ง Chuladoctor Clinic เแพทย์ผู้ชำนาญการด้านเวชศาสตร์ชะลอวัย, การปรับรูปหน้าและเทคนิค SMAPS ขั้นสูง