วิธีลดความอ้วนแบบธรรมชาติ ไม่พึ่งยา
เมื่อพูดถึงเรื่องของ การลดความอ้วน แล้ว นับเป็นหนึ่งในกิจกรรมที่หลาย ๆ คนให้ความสำคัญและวางแผนการต่าง ๆ ให้กับตัวเองอยู่เสมอโดยมีจุดประสงค์เพื่อการดูแลรูปร่างให้ดูดี มีน้ำหนักที่น่าพึงพอใจ สามารถใส่เสื้อผ้าได้อย่างมั่นใจ เสริมบุคลิกภาพ และยังช่วยในเรื่องของสุขภาพที่แข็งแรงในระยะยาวอีกด้วย ซึ่งวิธีหรือแนวทางในการ การลดความอ้วน ในปัจจุบันนั้นก็มีหลากหลายรูปแบบด้วยกัน ขึ้นอยู่กับการตัดสินใจและการศึกษาหาข้อมูลของแต่ละบุคคล
หากพูดถึงวิธี การลดความอ้วน ที่หลายคนนิยมเลือกใช้เนื่องจากอยากเห็นผลลัพธ์ไว ๆ ก็มักจะเป็นวิธีลดน้ำหนักด้วยการอดอาหาร หรือทำตามสูตรลดน้ำหนักต่าง ๆ ที่มีอยู่มากมายในอินเตอร์เน็ต ซึ่งอาจช่วยให้น้ำหนักลงรวดเร็วทันใจในช่วงแรก แต่ว่าการทรมานหรือกดดันตัวเองมากจนเกินไป อาจทำให้เมื่อถึงจุด ๆ หนึ่งที่ร่างกายและจิตใจอดทนต่อไปไม่ไหว และลงเอยด้วยการกินมากขึ้นกว่าเดิม ระบบเผาผลาญที่พัง จนเกิดโยโย่เอฟเฟกต์ แถมบางวิธีอาจไม่ปลอดภัยต่อสุขภาพ ในขณะเดียวกันมีอีกหลายคนที่ใจร้อนหรือไม่ได้ศึกษาเรื่อง การลดความอ้วน อย่างถูกต้องให้มากพอ ก็อาจหันไปพึ่งพายาลดความอ้วน ซึ่งอาจส่งผลเสียและเป็นอันตรายต่อร่างกายทั้งในระยะสั้นและระยะยาวได้
ดังนั้นในบทความนี้เราจึงอยากแนะนำ วิธีลดความอ้วนแบบธรรมชาติ ในแนวทางต่าง ๆ ที่น่าสนใจเอาไปปรับใช้ให้เหมาะกับตัวคุณ ซึ่งเป็นวิธีลดน้ำหนักง่าย ๆ ไม่ทรมาน ไม่ต้องอดอาหาร ไม่ต้องใช้อหารเสริมใด ๆ และยังดีต่อใจผู้ที่กำลังตามหาวิธีลดน้ำหนักแบบไม่ต้องออกกำลังกายหักโหมหรือจะต้องไปเข้าฟิตเนสบ่อย ๆ มาฝากกัน ส่วนแนวนางในการใช้ วิธีลดความอ้วนแบบธรรมชาติ เพื่อดูแลรูปร่างในแบบสบาย ๆ ไม่เคร่งเครียดมากจนเกินไปนั้นจะมีอะไรบ้าง ตามไปดูกัน
วิธีลดความอ้วนแบบธรรมชาติ โดยการตั้งเป้าหมายที่ชัดเจนและสามารถทำได้จริง
ถ้าอยากจะลดความอ้วนให้สำเร็จอาจจะลองเริ่มต้น วิธีลดความอ้วนแบบธรรมชาติ ด้วยการวางแผนที่ดีและตั้งเป้าหมายชัดเจน ซึ่งเป็นเป้าหมายที่ไม่เกินจริง หรือโอเวอร์จนเกินไป เพื่อจะได้ไม่สร้างความกดดันให้ร่างกายและจิตใจ หรือทำให้รู้สึกท้อแท้กับ การลดความอ้วน ส่วนจะมีวิธีการอย่างไร ตามไปอ่านต่อและลองทำตามได้เลย
- ตั้งเป้าหมายที่ชัดเจนและสมเหตุสมผล
สิ่งแรกที่ต้องทำหากต้องการลดด้วย วิธีลดความอ้วนแบบธรรมชาติ คือการตั้งเป้าหมายที่ชัดเจนและสมเหตุสมผล เช่น ต้องการลดน้ำหนักให้ได้กี่กิโลกรัมภายในระยะยเวลาเท่าไร เช่น ลดให้ได้ 2 กิโลกรัมภายใน 1 เดือน เป็นต้น การตั้งเป้าหมายที่ชัดเจนจะช่วยให้เรามีแรงจูงใจมากขึ้น และทำให้เราไม่ท้อถอยเมื่อเจออุปสรรค ไม่ควรตั้งเป้าหมายที่เกินจริงหรือเสีย่งต่อสุขภาพเช่น ลดความอ้วนเร่งด่วน 7 วัน ซึ่งไม่เหมาะกับการทำในระยะยาว
- แบ่งเป้าหมายออกเป็นข้อย่อย ๆ
การแบ่งเป้าหมายออกเป็นเป้าหมายย่อย ๆ จะช่วยให้เราเห็นความก้าวหน้าในการลดน้ำหนักได้ง่ายขึ้น และทำให้เราไม่รู้สึกท้อแท้มากนัก เช่น หากต้องการลดน้ำหนัก 10 กิโลกรัม เราสามารถแบ่งเป้าหมายออกเป็น 2 เป้าหมายย่อย คือ ลดน้ำหนัก 5 กิโลกรัมภายใน 3 เดือน และลดน้ำหนักอีก 5 กิโลกรัมภายใน 3 เดือนถัดไป เป็นต้น
- วางแผนการลดน้ำหนักให้ครอบคลุมรอบด้าน
การวางแผนการลดน้ำหนักอย่างครอบคลุมในหลาย ๆ ด้านก็จะช่วยให้เราลดน้ำหนักได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น เช่น วางแผนเรื่องสารอาหาร/ปริมาณของอาหาร/ชนิดของอาหาร, วางแผนออกกำลังกาย, วางแผนเรื่องผ่อนคลายความเครียด วางแผนสำรองหากน้ำหนักนิ่งหรือคงที่ เป็นต้น
วิธีลดความอ้วนแบบธรรมชาติ โดยยึดหลักจิตวิทยา ไม่ต้องพึ่งยาลดน้ำหนัก
วิธีลดความอ้วนแบบธรรมชาติ ด้วยการใช้หลักจิตวิทยาก็คือการปรับเปลี่ยนพฤติกรรม ใช้สภาพปัจจัยแวดล้อมต่าง ๆ ร่วมกับการใช้หลักจิตวิทยาในการสร้างการรับรู้ให้สมองหรือร่างกายนั้นรู้ว่าเราอิ่มแล้ว หรือได้รับปริมาณอาหารที่เพียงพอแล้ว และสำหรับใครที่ต้องการลองเทคนิค วิธีลดความอ้วนแบบธรรมชาติ ก็อาจจะเริ่มต้นฝึกฝนตัวเองง่าย ๆ ด้วยวิธีที่นำมาฝากกันดังต่อไปนี้
- ฝึกตัวเองให้เคี้ยวให้ละเอียด และกินให้ช้าลงกว่าปกติ
วิธีลดความอ้วนแบบธรรมชาติ ตามหลักของ “สมอง” นั้น ปกติคนเราต้องใช้เวลาประมวลผลประมาณ 20 นาที ถึงจะรู้ว่าร่างกายอิ่มแล้ว ดังนั้นการค่อย ๆ เคี้ยวอาหารให้ละเอียดจะช่วยให้กินอาการได้ช้าลง ใช้เวลานานขึ้นและรู้สึกอิ่ม โดยที่ปริมาณอาหารและแคลอรี่ที่น้อยลงกว่าเดิม หรืออาจจะเริ่มง่าย ๆ ด้วยการลองนับจำนวนครั้งการเคี้ยวอาหารแต่ละคำก่อนกลืนเพื่อฝึกให้ตัวเองเคี้ยวช้าจนเป็นนิสัย
- ไม่ตุนอาหารที่อาจทำให้น้ำหนักเพิ่มไว้ในบ้าน หรือเอาไว้ให้ห่างไกลตัวเองมากที่สุด
มีการศึกษาพบว่าผู้ที่เก็บอาการที่อาจทำให้น้ำหนักเพิ่ม เช่น ขนมขบเคี้ยว น้ำอัดลม แครกเกอร์ ของหวาน ฯลฯ เอาไว้ในที่ที่ตัวเองมองเห็นได้ง่าย เช่น บนโต๊ะอาหาร โต๊ะกลางโซฟา เคาน์เตอร์ในห้องครัว หรือในตู้เย็นที่เปิดไปแล้วเจอเลยไม่ต้องค้นหา นั้นมีแนวโน้มที่น้ำหนักตัวจะเพิ่มขึ้นมากกว่าคนที่มีผักผลไม้และอาหารที่มีประโยชน์วางไว้ในบริเวณที่มองเห็นได้ง่าย นั่นเป็นเพราะว่าการมองเห็นอาหารพลังงานสูงเหล่านั้นสามารถกระตุ้นความอยากได้ง่าย แถมยังสะดวกต่อการหยิบกินเมื่อไรก็ได้แม้จะไม่ได้หิวก็ตาม แนะนำให้งดตุนของเหล่านั้น หรือถ้าจำเป็นต้องมีให้เก็บไว้ในที่ที่มองเห็นยาก เช่น ตู้ปิดทึบหรือชั้นวางที่มีประตูปิด และจัดวางอาหารที่ดีต่อสุขภาพเอาไว้ตามจุดต่าง ๆ ในบ้านที่มองเห็นและหยิบได้ง่ายแทน
- เพิ่มอาหารที่มีกากใยหรือไฟเบอร์สูง ช่วยทำให้กระเพาะรู้สึกอิ่มเร็วขึ้น
วิธีลดความอ้วนแบบธรรมชาติ ด้วยการเพิ่มไฟเบอร์หรือกากใยอาหารซึ่งเป็นหนึ่งในสารอาหารที่ช่วยให้ร่างกายอิ่มเร็วและอิ่มนาน ส่งผลให้รับประทานได้น้อยลง ทั้งยังช่วยในเรื่องการขับถ่ายอีกด้วย ผู้ที่ต้อง การลดความอ้วน จึงควรเน้นกินผักผลไม้ ธัญพืชไม่ขัดสี ข้าวกล้อง ข้าวโอ๊ต ขนมปังโฮลวีต และถั่วเมล็ดแห้ง เพื่อเพิ่มกากใยอาหารให้ร่างกายได้มากที่สุดในช่วงที่มี การลดความอ้วน
- ดื่มน้ำเยอะขึ้นในแต่ละมื้ออาหาร เพื่อช่วยให้ร่างกายกินอาหารได้ปริมาณน้อยลง
การดื่มน้ำเป็นอีกเคล็ดลับของ วิธีลดความอ้วนแบบธรรมชาติ ที่ทำได้ง่ายและค่อนข้างได้ผล โดยให้ดื่มน้ำก่อนมื้ออาหารทุกครั้ง พบว่าผู้ที่ดื่มน้ำเปล่า 500 มิลลิลิตร ก่อนอาหารประมาณ 30 นาที จะมีส่วนช่วยให้รู้สึกหิวน้อยลง และกินน้อยลง นอกจากนี้ยังมีการวิจัยที่พบว่าผู้ที่ดื่มน้ำก่อนมื้ออาหารและกินอาหารแคลอรี่ต่ำสามารถลดน้ำหนักได้มากกว่าผู้ที่กินอาหารแคลอรี่ต่ำอย่างเดียวแต่ไม่ได้เพิ่มเติมการดื่มน้ำก่อนอาหารเข้าไปด้วย
- ใช้สมาธิจดจ่อ โฟกัสกับการกินอาหารในแต่ละครั้ง
ฝึกฝนตัวเองให้มีสติ จดจ่อและมีสมาธิกับการกินให้จบในแต่ละมื้อไป ในระหว่างกินไม่ควรใช้โทรศัพท์มือถือ ดูทีวี ดูซีรี่ส์ หรือเล่นเกมไปด้วยเพราะอาจจะทำให้เผลอกินในปริมาณมากเกินไปโดยไม่รู้ตัว และควรตั้งสติและถามตัวเองให้แน่ใจทุกครั้งว่ากินเพราะถึงเวลาต้องกินจริง ๆ ไม่ใช่กินเพราะแก้เบื่อหรือเครียดเลยอยากกิน
สรุป
โดยสรุปแล้ว วิธีลดความอ้วนแบบธรรมชาติ เป็น การลดความอ้วน โดยไม่ต้องใช้สูตรลัดหรือสูตรอาหารต่าง ๆ ไม่ต้องพึ่งยา เป็นการพึ่งพาหลักการทำงานของสมองและร่างกาย เพื่อฝึกฝนให้ร่างกายคุ้นชินกับการกินในปริมาณที่น้อยลงแบบค่อยเป็นค่อยไป ไม่หักโหมหรือหักดิบจนทำให้เสี่ยงต่อโยโย่เอฟเฟกต์ ควบคู่ไปกับการวางแผนการลดน้ำนหักให้กับตัวเองอย่างชัดเจน เพื่อไม่ให้หลงทางหรือหลงลืมความตั้งใจ และหากคุณเป็นอีกคนที่ยังไม่แน่ใจว่าจะต้องวางแผนลดน้ำหนักอย่างไร แนะนำให้ปรึกษาแพทย์ผู้ชำนาญการด้านการดูแลรูปร่าง เพื่อช่วยให้คุณลดน้ำหนักได้แบบถูกหลัก มีผู้เชี่ยวชาญคอยติดตามผลและประเมินการรักษา มาพร้อมนวัตกรรมใหม่ ๆ ที่คิดค้นและพัฒนามาเพื่อให้ผู้เข้ารับบริการได้รูปร่างที่น่าพึงพอใจ เรียกว่า โปรแกรม Sliming Lisa นวัตกรรมใหม่ของการลดน้ำหนักที่ปรับสมดุลระบบเผาผลาญลึกถึงระดับเซลล์ เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการเห็นผลลัพธ์เรื่องของการลดน้ำหนักที่น่าพึงพอใจ ด้วยการใช้เทคนิคปรับสมดุลร่างกายล้ำลึกถึงระดับเซลล์ ดูแลโดยแพทย์เฉพาะทางผู้ชำนาญการด้านการดูแลรูปร่างโดยเฉพาะ
บทความนี้เขียนโดย แพทย์หญิงธนิดา วรวิวัชร์ (หมอใบเฟิน) แพทย์ศาสตร์บัณฑิต จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ผู้เชี่ยวชาญด้านเวชศาสตร์ชะลอวัย แพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านการปรับรูปหน้าและเทคนิคสเต็มเซลล์ขั้นสูง และเป็นผู้ก่อตั้ง Chuladoctor Clinic